โรคต้อกระจกเกิดจากการขุ่นของ “เลนส์ตา” ทำให้จอประสาทตาจะรับแสงได้ไม่เต็มที่ ทำให้การมองเห็นผิดปกติไป อาจมีสายตาพร่ามัวเหมือนมองผ่านกระจกฝ้า ยิ่งเลนส์ตาขุ่นมากขึ้น การมองเห็นจะลดน้อยลงตามลำดับ ต้อกระจกเป็นภาวะซึ่งเกิดจากความเสื่อมตามวัย จึงพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ
อาการของต้อกระจก
• ตามัวหรือมองเห็นไม่ชัดเจน ลักษณะคล้ายมีฝ้าหมอกบัง
• มองเห็นภาพซ้อน หรือมีอาการสายตาสั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เปลี่ยนแว่นตาบ่อย มองเห็นระยะใกล้ได้ดีขึ้น
• มองเห็นแสงไฟกระจาย โดยเฉพาะเวลาขณะขับรถในตอนกลางคืน
• สู้แสงสว่างไม่ได้
• มองเห็นสีผิดเพี้ยนไปจากเดิม
การรักษาต้อกระจก
ในระยะเริ่มแรกของการเป็นต้อกระจก จะพบว่ามีค่าสายตาที่เปลี่ยนไป การใส่แว่นตาเพื่อปรับค่าสายตาให้เหมาะสมจะช่วยทำให้การมองเห็นดีขึ้นได้ จนกระทั้งต้อกระจกเป็นมากขึ้น วิธีการรักษาจะเป็นการผ่าตัดต้อกระจก และใส่เลนส์ตาเทียม ในปัจจุบันยังไม่มียาหยอดตาหรือยารับประทานใด ๆ ที่จะสามารถรักษาต้อกระจกได้
การรักษาต้อกระจกโดยการผ่าตัด
1. วิธีสลายต้อกระจกด้วยเครื่องสลายต้อ (Phacoemulsification With Intraocular Lens)
เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน แผลที่กระจกตาเล็กเพียง 3 มม. โดยจักษุแพทย์จะสอดเครื่องมือสลายต้อเข้าไปที่ตัวต้อกระจก และใช้พลังงานความถี่สูงเท่าระดับอัลตราซาวด์เข้าไปสลายต้อกระจกจนหมด แล้วจึงใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปแทนที่
2. วิธีผ่าตัดต้อกระจกแบบเปิดแผลกว้าง (Extracapsular Cataract Extraction with Intraocular Lens)
วิธีผ่าตัดดั้งเดิมที่ใช้ในกรณีที่ต้อกระจกสุกและแข็งมากๆ จนไม่เหมาะกับการสลายด้วยเครื่อง โดยจักษุแพทย์จะเปิดแผลบริเวณครึ่งบนของลูกตายาวประมาณ 10 มม. เพื่อเอาตัวเลนส์ตาที่เป็นต้อกระจกออก แล้วใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปแทนที่ จากนั้นจึงเย็บปิดแผลด้วยไหมเย็บแผล
การผ่าตัดทั้ง 2 วิธีนี้ สามารถช่วยให้ผู้ป่วยกลับมามองเห็นได้ปกติอีกครั้ง แต่วิธีที่จะใช้ในการผ่าตัดนั้นจะขึ้นอยู่กับชนิดของต้อกระจกของผู้ป่วย
การป้องกันต้อกระจก
แม้ว่าจะไม่สามารถป้องกันต้อกระจกได้ทั้งหมด แต่การดูแลสุขภาพตาเป็นประจำ เช่น การตรวจตาเป็นประจำ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และการเลิกสูบบุหรี่ ก็สามารถช่วยชะลอการเกิดต้อกระจกได้
โรคต้อกระจก หากละเลยทิ้งไว้จนต้อกระจกสุกเกินไป อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น โรคต้อหิน การอักเสบภายในตา ซึ่งทำให้ เกิดอาการปวดตา ตาแดง และอาจถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นได้
ต้อกระจกสุก คือ การที่ปล่อยให้โรคต้อกระจกลุกลามจนก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหรือลุกลามจนเกิดอาการอื่น เช่น โรคต้อหิน หรือเกิดการอักเสบภายในตา ทำให้เกิดอาการปวดตา ตาแดง และอาจถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นได้
แม้ว่ายังไม่เข้าวัยสูงอายุ ก็ควรได้รับการตรวจตรวจสุขภาพดวงตาเป็นประจำทุก 1-2 ปี โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี หรือเมื่อมีอาการที่สงสัยว่าการมองเห็นเริ่มผิดปกติ ควรรีบเข้ามาพบแพทย์