มะเร็งปอด

https://www.aikchol.com/upload/health-info/health-info-31072025-091416.jpeg

มะเร็งปอด เป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในโลก และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตจากมะเร็งสูงที่สุด โดยมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้มากถึง 1 ใน 5 ของผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมด ในประเทศไทยมะเร็งปอดเป็นโรคที่พบสูงสุดในผู้ชาย และเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตจากมะเร็งในทั้งเพศชายและหญิง แต่มีสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อป้องกันและตรวจพบมะเร็งปอดในระยะเริ่มต้น ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดมากขึ้น

ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปอด
1. การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยหลักที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งปอด โดยประมาณ 85-90% ของผู้ป่วยมะเร็งปอดเกิดจากการสูบบุหรี่หรือการสัมผัสกับควันบุหรี่ ทั้งผู้ที่สูบเองและผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการสูบบุหรี่
2. อายุ มะเร็งปอดมักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุประมาณ 70 ปีขึ้นไป ซึ่งอาจมีการสะสมความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ มากขึ้น
3. การสัมผัสกับก๊าซเรดอ ก๊าซเรดอนเป็นธาตุกัมมันตรังสีที่มีอยู่ในธรรมชาติ และสามารถสะสมในอากาศภายในอาคารบ้านเรือน การสัมผัสก๊าซเรดอนมีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งปอดในผู้ที่ไม่สูบบุหรี่
4. การสัมผัสสารก่อมะเร็ง การสัมผัสสารเคมีต่าง ๆ เช่น แร่ใยหิน ควันจากท่อไอเสีย หรือสารเคมีบางชนิด เช่น อาเซนิค หรือยูเรเนียม อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปอดได้
5. การรักษาด้วยการฉายแสงที่ทรวงอก ผู้ที่เคยรับการรักษาด้วยการฉายแสงที่ทรวงอก เช่น ในการรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Hodgkin หรือมะเร็งเต้านม อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเป็นมะเร็งปอดในภายหลัง
6. ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปอด บุคคลที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นมะเร็งปอดมีความเสี่ยงสูงในการเกิดมะเร็งปอดเอง เนื่องจากมีปัจจัยทางพันธุกรรมที่อาจส่งผลต่อการเกิดโรค
7. มลภาวะทางอากาศ มลภาวะทางอากาศโดยเฉพาะควันจากการเผาไหม้ต่างๆ เช่น ควันจากยานพาหนะหรือโรงงาน ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งปอด

อาการมะเร็งปอด ในระยะแรกถึงระยะลุกลาม
โดยทั่วไปแล้วมะเร็งปอดอาการในระยะเริ่มต้นมักไม่แสดงอาการ แต่เมื่อโรคลุกลามแล้ว อาจพบอาการดังต่อไปนี้

• ไอเรื้อรัง (ไอแห้งหรือไอมีเสมหะ)
• มีปัญหาการหายใจ เช่น หายใจสั้น
• หายใจมีเสียงหวีด
• เจ็บบริเวณหน้าอกตลอดเวลา
• ไอมีเลือดปน
• เสียงแหบ
• ติดเชื้อในปอดบ่อยๆ เช่น ปอดบวม
• เหนื่อยง่ายหรือรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา
• น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ

อาการเหล่านี้อาจไม่เกี่ยวเนื่องกับมะเร็ง เนื่องจากมีหลายโรคที่อาจทำให้เกิดอาการเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ดี ผู้ที่มีอาการดังกล่าวข้างต้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาโดยเร็วที่สุด

การวินิจฉัยมะเร็งปอด
การวินิจฉัยโรคมะเร็งปอด เริ่มจากการซักประวัติและตรวจร่างกาย พิจารณาการตรวจเพิ่มเติมตามข้อบ่งชี้ ได้แก่ เอกซเรย์ปอด ตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์บริเวณทรวงอก หรือการตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าบริเวณทรวงอก เมื่อผลการตรวจภาพของปอดพบรอยโรคที่สงสัยมะเร็ง จะต้องมีการตรวจเพื่อยืนยันการวินิจฉัยด้วยผลทางพยาธิวิทยา (Pathology) ร่วมด้วยเสมอ

การนำตัวอย่างเซลล์ที่รอยโรคมาตรวจอาจทำได้โดยการส่องกล้องเข้าไปทางหลอดลม หรือโดยการใช้เข็มเจาะเข้าไปทางผนังช่องอกขึ้นกับความเหมาะสม การตรวจผลทางพยาธิวิทยาจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซลล์ผิดปกติ นอกจากจะวินิจฉัยว่าเป็นเซลล์มะเร็งแล้ว ยังสามารถแยกชนิดของเซลล์มะเร็งได้ด้วย ซึ่งมะเร็งปอดจะแบ่งเป็นชนิดเซลล์เล็ก (Small Cell Lung Cancer) และชนิดเซลล์ไม่เล็ก (Non-Small Cell Lung Cancer)

เมื่อการวินิจฉัยมะเร็งปอดชัดเจนแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการตรวจเพิ่มเติมเพื่อประเมินการลุกลามของโรค หรือระยะของโรคมะเร็ง ได้แก่ การตรวจสแกนกระดูก การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง การตรวจ PET/CT Scan เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมกับสภาวะของโรค

สุขภาพน่ารู้